Impossible is nothing
ตอนนี้ คนในทีมเริ่มเรียกลุงบีกันแล้ว
หลายๆ คนคงคิดว่าทำงานมานานขนาดนี้ คงรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับงานโรงแรมทะลุปรุโปร่งหมดแล้วล่ะสิ
จริงๆแล้วไม่ใช่เลยครับ งานโรงแรม ถ้าแบ่งหลักๆ เอาแค่เฉพาะในส่วนปฎิบัติการ (Operation)
ก็จะมี 2 ส่วนหลักๆ คือ
1. ห้องพัก (Room Division)
2. อาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage Division) หรือที่ เรียกกัน ติดปากว่า F&B ซึ่งแผนกนี้จะรวมกันระหว่าง พนักงานบริการในห้องอาหารและพนักงานในครัว
ผมเริ่มงานมาจาก ส่วนห้องพัก ตั้งแต่ Bell Boy จนถึง Room Division Manager เป็นเวลา 17-18 ปี ไม่เคยทำงานในส่วน F&B เป็นเรื่องเป็นราวเลย อาจจะมีงานช่วย เสิร์ฟ,เก็บจาน (หนักไปทางใช้แรงงาน) เวลาที่ลูกค้ามาพร้อมๆกัน แล้ว F&B ต้องการความช่วยเหลือบ้าง
พอมาถึงจุดที่ต้องดูแลทั้งรีสอร์ทแบบนี้ ความรู้ทาง F&B จึงเป็นสิ่งที่ผมต้องเร่งเรียนรู้อย่างมากโดยเร็ว
แล้วผมจะมีเวลาเรียนรู้ยังไงล่ะที่นี้ ไปลงเรียนคงไม่มีเวลาหรืออาจจะสมัครไม่ผ่าน เพราะอายุเกิน 5555
Learning by Doing - เรียนรู้จากการลงมือทำ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
อ้าวแล้ว อายุเยอะ,ตำแหน่งงานขนาดนี้จะไปลงมือทำหรือเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ ได้เหรอ ???
(อาจมีคนสงสัย)
ตอบเลยว่าได้ครับ ด้วยคำๆหนึ่งที่ผมบอกตัวเองมาตลอด
"Anything Is Possible"
ผ่านมาเกือบ 2 ปี จากการพยายามเรียนรู้เองจากแหล่งความรู้ต่างๆ, ถามจากผู้รู้ , ถามจากพี่ๆน้องๆ ในทีม,ลงไปหยิบจับ, คลุกคลีอยู่ในครัว
ถึงจะไม่ได้ชำนาญขนาดมืออาชีพ แต่ก็ทำให้มั่นใจในการทำงานมากขึ้น ทำงานสนุก ทำงานคล่องตัวมากขึ้น
และในช่วง Long Weekend ที่ผ่านมานี่เองครับ ที่ผมได้ลองทำงานอีกตำแหน่งหนึ่งในครัว :)
เนื่องจากเรามีลูกค้ามาทานอาหาร โดยเฉพาะมื้อเย็น เกือบๆ ร้อยหัว ทุกคืนตั้งแต่ก่อนคริสต์มาสจนถึงหลังปีใหม่ และด้วยในครัวขาดกำลังคนจริงๆ แค่ลูกค้า 40-50 คนก็แทบจะไม่ทันแล้ว หัวหน้าเชฟไม่สามารถ สั่งการหรือควบคุมการออกอาหารในครัวได้อย่างเต็มที่ เพราะต้องลงมือเองตลอดเวลา
ผมเลยอาสา เป็นคนไปจัดคิวการออกอาหารให้
บอกเลยครับว่าไม่ง่าย ( สำหรับผมนี่เรียกว่า ยาก!! เลย)
ถ้าลูกค้ามาที่ละโต๊ะ หรือ order มาที่ละใบ แบบนี้หวานหมูครับ ใครๆก็จัดคิวได้
แต่ถ้ามาพร้อมกัน 5 โต๊ะ แถมบางโต๊ะแยกครอบครัวด้วย
แล้วอย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่า อาหารต่างชาตินี่ไม่ใช่จานเดียวจบแบบตามสั่งของเราๆท่านๆ นะครับ
มีอาหารเรียกน้ำย่อย,สลัด,ซุป,จานหลักและของหวาน
นึกภาพออกนะครับ ว่าเราจะต้องจัดเรียงอาหารออกไปให้ถูกต้อง
แล้วกุ๊กจะมาทำอาหารที่ละจาน ที่ละ order ก็ไม่ได้นะครับ ไม่ทันกินแน่นอน
การสรุปจำนวนจานของอาหารในเมนูเดียวกันจาก order หลายๆโต๊ะ เพื่อที่กุ๊กจะปรุงได้พร้อมๆกัน จึงจำเป็นมากๆ
รวมทั้งต้องบอกความต้องการพิเศษที่ลูกค้าแจ้งมาให้กุ๊ก ทราบด้วย ว่าเผ็ดมาก เผ็ดน้อย ไม่ผัก ไม่ใส่หอม สุกมาก สุกน้อย
ที่นี้นึกภาพความสนุกสนาน ความท้าทาย ของงานนี้ออกแล้วนะครับ อาหารจะโดนตีกลับหรือไม่ ลูกค้าจะรอนานไหม เด็กเสิร์ฟจะโดนแขกกินหัวหรือป่าวก็ต้องอาศัยผม (ในคราบ Order Checker) นี่แหล่ะครับ
คืนแรก...เละครับ 5555 ผมทำกุ๊กงง เด็กเสิร์ฟงง ตัวเองก็ยังงง ลูกค้าแทบจะลุกหนีกลับห้อง รอนานมากแถมสลับโต๊ะ สั่งไก่ได้เป็ด สั่งปูได้กุ้ง 5555
ถึงกับเครียดเลยนะครับ นอกจากช่วยน้องๆไม่ได้ ยังสร้างปัญหาอีก....เฮ้อ
ก่อนนอนคืนนั้น ผมมามองย้อนดูสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วค่อยๆดูว่าปัญหามันคืออะไร (บอกเลยว่าเยอะครับ) แล้วหาทางแก้มัน
คืนที่สอง....ดีขึ้นครับ อาจจะมีช้าบ้าง แต่ผมและทีมเริ่มที่จะไม่งง ใส่กันแล้ว ปํญหาน้อยลง
เด็กเสิร์ฟหัวยังอยู่กันครบ (ไม่โดนแขกกิน 5555)
คืนที่สาม...เกือบ perfect ครับ แถมมีเสียงหัวเราะ มีร้องเพลง กันได้บ้างแล้ว
เดาถูกแล้วครับ !!! คืนที่สี่ Perfect ไม่มีปัญหาเลย แถมลูกค้ายังชมว่าอาหารออกเร็วมากๆ :)
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "Anything Is Possible" ยังใช้ได้เป็นอย่างดี สำหรับผม
ถ้าผมทำได้ ใครๆก็ทำได้ครับ
เวลาคุณๆต้องทำหรือต้องเจอเรื่องที่คุณคิดว่าเป็นไปไม่ได้
แค่ทำตามนี้
- เปิดใจยอมรับมัน ตัด Ego ออกไปซะ - Open your mind
- เชื่อว่าคุณทำได้ - Believe in yourself
- มองปัญหาหรืออุปสรรค เป็นความท้าทาย - Challenge yourself
- เรียนรู้และแก้ไข - Learn & Fix
- ให้โอกาสตัวเองเสมอ - Everyone deserve second chance
- มุ่งมั่น ไม่ย่อท้อ ทำมันต่อไป - Just Do It... again !!!
- อย่าลืมใส่ความสนุกเข้าไป - Have Fun ( ข้อนี้ผมจัดเต็มตลอดๆ 555)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น