วันพุธที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เกาะมหาสมบัติ แผนที่ เข็มทิศ

เกาะมหาสมบัติ แผนที่ เข็มทิศ



คำถามที่ผมใช้ทุกครั้งเวลา หากได้สัมภาษณ์หา เพื่อนร่วมงานคนใหม่ในช่วงหลังๆ นี้คือ

" คุณเห็นภาพตัวเองเป็นอะไร แบบไหน ในอีก 10 ปีข้างหน้า" .....เชื่อไหมครับ

ไม่เกิน 3 คน ใน 10 คน ที่สามารถตอบผมได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลานึก

แถมเล่ามาเป็นฉากๆ ว่า จะเป็นอะไรทำอะไร ตอนไหน อย่างไร ด้วยดวงตาที่เป็นประกาย

สังเกตุจากประวัติการทำงานของคนกลุ่มนี้ จะมีความก้าวหน้าในงานอย่างต่อเนื่อง

แถมยังมีทักษะหลากหลาย รับผิดชอบได้หลายบทบาท คนแบบนี้แหละครับ ที่ผมเลือก

คนอีกกลุ่มประมาณ 5 คน จากที่เหลือ ต้องใช้เวลานึก ซักพัก และไม่ค่อยชัดเจนในรายละเอียด

ประมาณว่า ก็นึกๆอยู่นะว่าจะเป็น ผู้จัดการ,หัวหน้าแผนก แต่ไม่แน่ใจว่า เมื่อไหร่ ยังไง

แบบนี้ก็ยังดีครับ ถ้ามีใครคอยแนะนำ ก็พอจะไปได้ แต่ไม่ค่อย กระตือรือร้น ทำเอง ต้องมีคนนำ

ส่วนอีก 2 คนที่เหลือ ไม่ต้องเล่านะครับ อย่าไปสนใจเค้าเลยครับ ปล่อยเค้าไปตามทาง เหอะเนอะ 555


ผมเป็นคนหนึ่งที่เชื่อเรื่องเป้าหมาย เชื่อมากๆ 
ที่มีวันนี้ก็เพราะพี่เป้า(หมาย) เค้าให้มาจริงๆ




ถ้าเป้าหมายเป็น เกาะมหาสมบัติ การที่เรือชีวิตของเราจะไปให้ถึง เกาะนั้นได้

คิดว่าเราต้องมีเครื่องมือที่จำเป็น อะไรบ้างครับ นอกจากประสบการณ์การเดินเรือ  ????

แน่นอน เราต้องมี แผนที่ เชื้อเพลิง เข็มทิศ 


ขอเปรียบเทียบ แผนที่ เป็นวิธีการ เป็นแนวทางการเดินทาง เป็นแนวทางการใช้ชีวิตนะครับ


เชื้อเพลิง ก็เป็น กำลังกาย สุขภาพที่แข็งแรง ที่จะพาเราไปข้างหน้าได้อย่างสะดวก


ส่วน เข็มทิศ อันนี้สำคัญที่สุดครับ เข็มทิศ คือจิตใจที่มุ่งมั่น คือทัศนคติด้านบวก คือความไม่ย่อท้อ


การที่เรารู้แล้วว่า เป้าหมาย เราคืออะไร เท่ากับเรารู้แล้วว่า เกาะมหาสมบัติ

ของเราอยู่ทางไหน

จะไปให้ถึงก็ต้อง ขวยขวาย หาลู่ทาง หา แผนที่ มากางกันดูหน่อยสิว่า ทางไหนดี ทางไหนง่าย

ทางไหนลำบากน้อย ต้องใช้ประสบการณ์ ใช้กึ๋น ใช้ความสามารถ กำหนดเส้นทาง

กำหนดวิธีการในการไปถึงเกาะ อย่างสุขุมรอบคอบ

ออกไปสู่มสี่สุ่มหก วกไปเจอมรสุมเข้าก็ อาจจะล่ม อาจจะจมได้ง่ายๆ

เหมือนๆการทำงานนั่นแหล่ะครับ ต้องวางแผนงาน ต้องเตรียมตัว แล้วค่อยๆ ลงมือปฏิบัติ

ค่อยๆ ล่องเรือออกมา

แต่ก่อนออกเดินทางอย่าลืมดู เชื้อเพลิง นะครับ ต้องดูให้ดีนะครับว่าเพียงพอต่อการเดินทาง

จะทำการใดใหญ่ หรือ เล็ก สิ่งที่เป็นปัจจัย สำคัญอีกอย่างก็คือ สุขภาพเรานี่แหละครับ

ต้องรู้จักดูแลตัวเอง หลักการง่ายๆ ที่เค้าโปรโมทกัน ก็ 3 อ. อาหารดี ออกกำลังกาย อารมณ์ดี

สุขภาพเราดีซะอย่าง อะไรจะหนักหนาแค่ไหนก็เอาอยู่ ร่างกายแข็งแรง อะไรดีๆก็ตามมาเอง

เหนือสิ่งอื่นใด เข็มทิศ  ของเราต้องชี้ถูกทิศ ถูกทางนะครับ ต้องนำเราไปให้แม่นยำ

ต้องมุ่งมั่นจริงๆ ต้องบอกตัวเองว่า ไม่ถึงเกาะ ชั้นไม่หยุด ไม่ย่อท้อ มีทัศนคติที่บวก

ทัศนคติทีดี จะนำไปให้ตลอดรอดฝั่ง

จะเจอปัญหา เจอมรสุม อย่างไร ก็ไม่หันหัวเรือกลับ อาจจะต้องปรับทิศทางกันบ้าง หลบคลื่น

หลบพายุ ตามโขดหิน ตามเกาะเล็ก เกาะน้อยบ้าง รอจะพายุสงบ เข็มทิศเราก็ต้องนำกลับมาสู่เส้นทาง

ตามแผนที่ให้เร็วที่สุด แล้วลุยกันต่อ

ไม่มีใครรู้ครับว่า เกาะที่เรามุ่งหน้าไป จะเป็นเกาะมหาสมบัติของเราจริงๆหรือป่าว

ก็เหมือนกับที่ เป้าหมายที่เราไปถึง นั้นแหละครับ จะเป็นอย่างที่เราคิดทุกอย่างหรือป่าว ไม่มีใครรู้

ถึงจะไม่ดี ไม่ได้อย่างที่เราคิดแต่ อย่างหนึ่งที่ได้แน่นอน คือ ความภูมิใจในตัวเองครับ

ความภูมิใจนี้ ก็เหมือน อาหาร น้ำดื่ม เป็น เสบียงให้เราเดินทางต่อไปได้

เพื่อที่เราอาจจะไปเจอ เกาะมหาสมบัติ  ที่เราคาดหวังไว้ในวันข้างหน้า ก็เป็นได่้ครับ

อย่าพึ่งท้อ อย่ายอมแพ้ง่ายๆ


" ชีวิตที่ขาดซึ่งเป้าหมาย ก็เหมือนเรือที่ออกจากท่าโดยไม่มีจุดหมาย 
เมื่อเชื้อเพลิงหมด ต้องพึ่งแต่ลมทะเล สุดท้ายก็ล่ม ก็จมสู่ก้นท้องทะเล" 





วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Just Like That

Just Like That 




" Just Like That !!!! " 


คำอุทาน (แบบสูงปรี๊ดและดังสนั่น)ของ เจ้านายฝรั่ง ยังดังก้องอยู่ในหู

ตอนที่ผมโทรไปแจ้งข่าวร้ายของเพื่อนร่วมงานหนึ่ง

ว่าพี่เค้าสิ้นลมแล้ว  หลังจากต้องนอนอยู่ใน ICU อยู่ เกือบ 2 สัปดาห์ เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา

คืนที่พี่เค้าถูกส่ง รพ. ก่อนแยกย้ายกัน เรายังคุยกันขำๆ ว่า ใครจะหมดแรงก่อนกัน 

ด้วยที่ต้องลุยงานติดๆกัน ไม่ได้หยุด มามากกว่า 2 อาทิตย์ในช่วงสงกรานต์ 

หลังจากคุณหมอที่ รพ.ประจำจังหวัดพยายามอย่างมากที่จะยื้อชีวิต พี่เค้าไว้ แต่ก็เกินความสามารถ 

หลายคน รวมทั้งผม คิดว่าถ้าพี่เค้าได้ไป รักษาตัวที่ รพ. เอกชนดีๆ พี่เค้าคงไม่จากไปด้วยวัย 40 ต้นๆ 

แบบนี้ แต่....จนปัญญาด้วยครอบครัวของพี่เค้า ไม่อาจจะรับ ค่าใช้จ่ายที่แสนแพงใน รพ. เอกชนได้ 

และที่แย่กว่านั้น พี่เค้าไม่มีประกันชีวิตอื่นเลย มีแต่ประกันสังคมล้วนๆ เฮ้อออออ 


หลังจากนั้นไม่กี่วัน ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้ผม อุทานคำนี้ อีกครั้ง !!!! 

" Just Like That !!!! " 

เมื่อได้ข่าว อุบัติเหตุของเพื่อนชาวอเมริกันคนหนึ่งที่กรุงเทพ รุ่นราวคราวเดียวกันนี่แหล่ะครับ 

เพื่อนคนนี้ ต้องนอน ICU เป็น เจ้าชายนิทรา นานกว่า 2 เดือน หลังจากผ่าตัดสมอง 

เค้าก็ฟื้นมา แบบต้องสอนทุกอย่างใหม่หมด คือพูดง่ายๆ กลับมาเป็นทารกอีกครั้ง  

เพราะถูกรถที่คนขับเมาชน !!!! 

ล่าสุดได้ข่าวว่า ต้องกลับไปรักษาตัวที่  อเมริกา เพื่อผ่าตัดเพิ่มเติม 

หลังจากที่ครอบครัวของเค้าต้อง ควักกระเป๋าจ่ายค่ารักษาพยาบาลเป็นเงิน 15,000,000 บ. ถ้วน 

ใช่ครับ ผมใส่เลข 0 ไม่ผิด สิบห้าล้านบาท จริงๆ และเค้าไม่มีประกันภัยในประเทศไทยเลย !!!! 


เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา คำนี้ก็ดังก้องขึ้นมาในหัวผมอีกครั้ง 

" Just Like That !!!! " 


เมื่อได้รับ line จาก น้องชาย ว่า เพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่ง 

ซึ่งเป็นทั้ง เพื่อนของน้อง เพื่อนของผม เคยเป็นเหมือนสมาชิกคนหนึ่งในบ้าน มากิน มานอน

มาเมาด้วยกัน ตอนที่ยังเป็นวัยรุ่นกันอยู่ ซึ่งก็นานมากๆ แล้วครับ 

ด้วยการงานของเราทั้งคู่ทำให้ ผมกับม่อนห่างๆ กัน

จนเมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว เพิ่งได้ข่าวว่า เค้ากลับมาอยู่บ้านหลังจากไป ทำงานที่ กทม. อยู่นาน 

ว่าจะหาโอกาสไปเจอ ระลึกความหลังกันซะหน่อย สุดท้ายก็.....ไม่มีโอกาสอีกแล้ว ม่อนเอ้ย 

น้องบอกว่า ม่อนหลับไปเฉยๆ ด้วยอาการ กรดไหลย้อน หลังจากทานยา ลดกรดแล้วเข้านอน 

แล้วม่อนก็ไม่ตื่นมาเลย 


จากเพียง 3 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนที่ผมรู้จัก 

ทำให้ ผมมานั่งนึกย้อนถึงคำนี้ จริงๆแลัว 

Just Like That !!!! น่าจะป้องกันได้นะ 

  • งานหนักไม่ได้ ช่วยให้เรามีความสุขจริงๆ ถ้าเราไม่รักตัวเอง 
  • ถ้าเราทำงานจนต้องล้มป่วยจนทำงานไม่ได้ เดี๋ยวเค้าก็หาคนอื่นมาแทนเรา 
  • คนที่ลำบากไปกับเราก็คือ ครอบครัว 
  • สุขภาพเป็น สิ่งที่มีค่า ต้องรักษา ต้องบำรุง 
  • ประกันสังคมไม่ได้ช่วยอะไร อย่างที่เรารู้ๆกัน 
  • จงมีประกันชีวิตและประกันสุขภาพ ในวันที่คุณพร้อมจะมี ยังมีโอกาสที่มีได้ 
  • อย่าเห็นประโยชน์ของการทำประกันสุขภาพ ตอนคุณล้มปวย
  • อย่าเห็นประโยชน์ของการทำประกันชีวิต ตอนคุณล้มปวย กำลังจะตาย ( อาจจะสายเกินไป) 
  • วางแผน ชีวิตแต่เนิ่นๆ ลงทุนกับสุขภาพของคุณเอง               ตอนยังแข็งแรง ถูกกว่า 
  • หมั่นตรวจสุขภาพ อย่าคิดว่า เพิ่งอายุ 30-40 เอง ไม่เป็นไรหรอก ....อย่าประมาทนะครับ  
  • อย่าประมาท อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ 
  • เมาไม่ครับ !!! อันนี้สำคัญ 
ผมไม่ได้เขียน Blog มานานมากๆ แรงบันดาลใจที่ทำให้กลับมาเขียนก็เพราะ ม่อน จริงๆ 

คิดว่าเรื่องของ ม่อน อาจจะไปสะกิด เตือนใจ หลายๆ คนให้ไม่ประมาทในการใช้ชีวิต 

ถ้ามี แม้เพียงคนเดียวได้อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้ ชีวิตในอนาคตของเค้าดีขึ้น ก็นับว่าเป็นบุญแล้ว 

เฮียขออุทิศ บุญกุศลใดๆ ก็ตามที่เกิดจากการเขียน Blog ของเฮียเรื่องนี้ ให้ม่อนนะ 

หลับให้สบาย ไอ้ม่อนน้องรัก 


เครดิต รูปจาก Facebook -Boom-bb