Just Like That
" Just Like That !!!! "
ตอนที่ผมโทรไปแจ้งข่าวร้ายของเพื่อนร่วมงานหนึ่ง
ว่าพี่เค้าสิ้นลมแล้ว หลังจากต้องนอนอยู่ใน ICU อยู่ เกือบ 2 สัปดาห์ เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา
คืนที่พี่เค้าถูกส่ง รพ. ก่อนแยกย้ายกัน เรายังคุยกันขำๆ ว่า ใครจะหมดแรงก่อนกัน
ด้วยที่ต้องลุยงานติดๆกัน ไม่ได้หยุด มามากกว่า 2 อาทิตย์ในช่วงสงกรานต์
หลังจากคุณหมอที่ รพ.ประจำจังหวัดพยายามอย่างมากที่จะยื้อชีวิต พี่เค้าไว้ แต่ก็เกินความสามารถ
หลายคน รวมทั้งผม คิดว่าถ้าพี่เค้าได้ไป รักษาตัวที่ รพ. เอกชนดีๆ พี่เค้าคงไม่จากไปด้วยวัย 40 ต้นๆ
แบบนี้ แต่....จนปัญญาด้วยครอบครัวของพี่เค้า ไม่อาจจะรับ ค่าใช้จ่ายที่แสนแพงใน รพ. เอกชนได้
และที่แย่กว่านั้น พี่เค้าไม่มีประกันชีวิตอื่นเลย มีแต่ประกันสังคมล้วนๆ เฮ้อออออ
หลังจากนั้นไม่กี่วัน ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้ผม อุทานคำนี้ อีกครั้ง !!!!
" Just Like That !!!! "
เมื่อได้ข่าว อุบัติเหตุของเพื่อนชาวอเมริกันคนหนึ่งที่กรุงเทพ รุ่นราวคราวเดียวกันนี่แหล่ะครับ
เพื่อนคนนี้ ต้องนอน ICU เป็น เจ้าชายนิทรา นานกว่า 2 เดือน หลังจากผ่าตัดสมอง
เค้าก็ฟื้นมา แบบต้องสอนทุกอย่างใหม่หมด คือพูดง่ายๆ กลับมาเป็นทารกอีกครั้ง
เพราะถูกรถที่คนขับเมาชน !!!!
ล่าสุดได้ข่าวว่า ต้องกลับไปรักษาตัวที่ อเมริกา เพื่อผ่าตัดเพิ่มเติม
หลังจากที่ครอบครัวของเค้าต้อง ควักกระเป๋าจ่ายค่ารักษาพยาบาลเป็นเงิน 15,000,000 บ. ถ้วน
ใช่ครับ ผมใส่เลข 0 ไม่ผิด สิบห้าล้านบาท จริงๆ และเค้าไม่มีประกันภัยในประเทศไทยเลย !!!!
เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา คำนี้ก็ดังก้องขึ้นมาในหัวผมอีกครั้ง
" Just Like That !!!! "
เมื่อได้รับ line จาก น้องชาย ว่า เพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่ง
ซึ่งเป็นทั้ง เพื่อนของน้อง เพื่อนของผม เคยเป็นเหมือนสมาชิกคนหนึ่งในบ้าน มากิน มานอน
มาเมาด้วยกัน ตอนที่ยังเป็นวัยรุ่นกันอยู่ ซึ่งก็นานมากๆ แล้วครับ
ด้วยการงานของเราทั้งคู่ทำให้ ผมกับม่อนห่างๆ กัน
จนเมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว เพิ่งได้ข่าวว่า เค้ากลับมาอยู่บ้านหลังจากไป ทำงานที่ กทม. อยู่นาน
ว่าจะหาโอกาสไปเจอ ระลึกความหลังกันซะหน่อย สุดท้ายก็.....ไม่มีโอกาสอีกแล้ว ม่อนเอ้ย
น้องบอกว่า ม่อนหลับไปเฉยๆ ด้วยอาการ กรดไหลย้อน หลังจากทานยา ลดกรดแล้วเข้านอน
แล้วม่อนก็ไม่ตื่นมาเลย
จากเพียง 3 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนที่ผมรู้จัก
ทำให้ ผมมานั่งนึกย้อนถึงคำนี้ จริงๆแลัว
Just Like That !!!! น่าจะป้องกันได้นะ
- งานหนักไม่ได้ ช่วยให้เรามีความสุขจริงๆ ถ้าเราไม่รักตัวเอง
- ถ้าเราทำงานจนต้องล้มป่วยจนทำงานไม่ได้ เดี๋ยวเค้าก็หาคนอื่นมาแทนเรา
- คนที่ลำบากไปกับเราก็คือ ครอบครัว
- สุขภาพเป็น สิ่งที่มีค่า ต้องรักษา ต้องบำรุง
- ประกันสังคมไม่ได้ช่วยอะไร อย่างที่เรารู้ๆกัน
- จงมีประกันชีวิตและประกันสุขภาพ ในวันที่คุณพร้อมจะมี ยังมีโอกาสที่มีได้
- อย่าเห็นประโยชน์ของการทำประกันสุขภาพ ตอนคุณล้มปวย
- อย่าเห็นประโยชน์ของการทำประกันชีวิต ตอนคุณล้มปวย กำลังจะตาย ( อาจจะสายเกินไป)
- วางแผน ชีวิตแต่เนิ่นๆ ลงทุนกับสุขภาพของคุณเอง ตอนยังแข็งแรง ถูกกว่า
- หมั่นตรวจสุขภาพ อย่าคิดว่า เพิ่งอายุ 30-40 เอง ไม่เป็นไรหรอก ....อย่าประมาทนะครับ
- อย่าประมาท อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ
- เมาไม่ครับ !!! อันนี้สำคัญ
ผมไม่ได้เขียน Blog มานานมากๆ แรงบันดาลใจที่ทำให้กลับมาเขียนก็เพราะ ม่อน จริงๆ
คิดว่าเรื่องของ ม่อน อาจจะไปสะกิด เตือนใจ หลายๆ คนให้ไม่ประมาทในการใช้ชีวิต
ถ้ามี แม้เพียงคนเดียวได้อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้ ชีวิตในอนาคตของเค้าดีขึ้น ก็นับว่าเป็นบุญแล้ว
เฮียขออุทิศ บุญกุศลใดๆ ก็ตามที่เกิดจากการเขียน Blog ของเฮียเรื่องนี้ ให้ม่อนนะ
หลับให้สบาย ไอ้ม่อนน้องรัก
เครดิต รูปจาก Facebook -Boom-bb
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น